กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาจราจร เน้น 10 ถนนติดขัด ห้ามใช้สัญญาณไฟอัตโนมัติ คาดโทษพื้นที่ปล่อยให้จราจรติดขัดโดยไร้เหตุผล ถูกลงโทษทางวินัยทันที
วันนี้ (3 มิ.ย. 59) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาจราจรในช่วงฤดูฝนและมรสุม โดยเชิญตำรวจจราจรทั้ง 88 สน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 12 หน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร และบริษัทก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีแดง ร่วมกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาจราจร โดยเฉพาะถนนกว่า 10 เส้นทางที่มีปัญหาจราจรติดขัดรุนแรง อาทิ ถนนลาดพร้าว รามคำแหง พระราม 9 รามอินทรา งามวงศ์วาน และแจ้งวัฒนะ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จะมอบหมายให้ตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงไปรับผิดชอบถนนแต่ละเส้น และให้ตำรวจสัญญาบัตรลงพื้นที่ระบายรถ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำไม่ให้กดสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติในจุดที่มีปัญหา อีกทั้ง จะเปิดช่องทางพิเศษ หรืออินวิซิเบิลบนถนนบางสาย เช่น บริเวณแยกเกษตร ทั้งนี้ หากตำรวจนายใดปล่อยปละละเลยให้เกิดการจราจรติดขัดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะพิจารณาบทลงโทษตามระเบียบ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูฝน นอกจากปัญหาการจราจรบนท้องถนนแล้ว ยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง ต้นไม้หัก ท่อน้ำอุดตัน และปัญหาอื่นๆ วันนี้จึงร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาความร่วมมือในการอำนวยความ สะดวกการจราจรและแก้ไขปัญหาต่อไป โดยในเขต กทม. มีพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมขังเป็นจุดเฝ้าระวังในกรณีมีฝนตกหนัก รวม 70 จุด ใน 33 เขต และจุดเฝ้าระวังพิเศษที่มีการก่อสร้างจำนวน 5 จุด คือ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง แนวถนนกำแพงเพชร 6 ถนนวิภาวดี การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แนวถนนพหลโยธิน การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี การก่อสร้างของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในแนวถนนกำแพงเพชร 2 ถนนบรมราชชนนี และถนนกาญจนาภิเษก และการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกบริเวณสามแยกไฟฉาย
